คำว่า Baton อ่านว่า บา-ตอง (ข้อมูลจากพี่ซัน – หากเจอหน้าผมแล้วผมยังเรียกว่า บา-ตัน จากความเคยชิน กรุณาให้อภัยกันด้วยครับ) หมายถึง ไม้เรียวๆยาวๆอะไรก็ได้ อย่างไม้ที่ไวทยากรณ์ใช้ควบคุมวงดนตรีก็เรียกว่า Baton คฑาของดรัมเมเยอร์ ไม้วิ่งผลัด พลองสั้นก็เรียกว่า Baton ไม้ในลักษณะเดียวกันนี้อีกสารพัดอย่างก็เรียกในชื่อเดียวกันนี้............ สำหรับ Tactical Baton หรือ Police Baton ที่ผมจะพูดถึงนี้ ขอจำกัดความอยู่แค่ กระบองสั้นที่ทำจากโลหะสามารถยืด หด ที่บางที่เรียกว่า Expandable Baton ได้เท่านั้นนะครับ........... ในบ้านเราใช้คำว่า ‘ดิ้ว’ แทน Baton ครับ........... แม้ว่าผมจะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ แต่เอาเป็นว่าขออนุโลมใช้ภาษาไทยเรียกเจ้า Tactical Baton นี้ว่าดิ้วไปพลางๆก่อนนะครับ เพราะยังหาคำที่เหมาะสมกว่านี้ไม่ได้ ครั้นจะเรียกว่าดิ้วรณยุทธก็ฟังดูลิเกเหลือเกิน :D
Tactical Baton เป็นอาวุธสำหรับป้องกันตัวที่ผมอยากจะแนะนำให้พวกเรามีติดบ้าน ติดรถ หรือติดตัวกันไว้ครับ เพราะราคามีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงอย่างดีก็สามสี่พันบาท.......... ในแง่ของการใช้งานก็ ใช้ง่าย ไม่จำเป็นจะต้องอาศัยความรู้ หรือทักษะมากนัก แต่ถ้าได้รับการฝึกฝนเพิ่มเติมก็จะสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น.......... ในด้านการป้องกันตัว แน่นอนว่ายาวกว่า ย่อมได้เปรียบ หากคนร้ายมีมีด หรือไม้หน้าสาม เข้ามาทำร้าย เรายังสามารถพอที่จะรับมือได้อย่างไม่เสียเปรียบ........... การปะทะกันระหว่าง Tactical Baton กับมีด หากฝีมือพอๆกันนี่ มีดกินยากครับ.......... ในด้านการพกพา อาจมีข้อเสียเปรียบที่พกพายากสักหน่อย แต่ก็ได้เปรียบเรื่องหากถูกตรวจค้น อย่างน้อยก็พูดจาอะลุ้มอล่วยกันง่ายกว่า........... อย่างมากก็บอกว่า รับจ๊อบเป็นยามเฝ้าหมู่บ้านก็หมดเรื่อง :D :D :D
ความยาวของ Baton
Tactical Baton ที่มีขายทั่วไปในตลาดจะมีอยู่ 4 ขนาด คือ 16 นิ้ว, 21 นิ้ว, 26 นิ้ว และ 31 นิ้ว แต่ขนาด 31 นิ้วจะไม่ค่อยพบเห็นมากนัก เพราะเมื่อหดเก็บแล้วยังยาวตั้งเกือบฟุต แถมยังน้ำหนักมากอีกด้วย เราจึงมักจะพบวางขายกันแค่สามขนาด........... อันที่จริงแล้วขนาดอาจจะไม่ตรงกับที่บอกเป๊ะๆครับ บางอันอาจจะเป็น 15 นิ้ว, 17 นิ้ว หรือ 20 นิ้วก็มี
ดิ้วที่ยาวกว่าย่อมได้เปรียบในการใช้งาน แต่ก็เสียเปรียบเรื่องพกพา........... ดิ้ว 16 นิ้ว เมื่อหดเก็บแล้วจะมีความยาวเหลือประมาณ 6 นิ้วครึ่ง ขณะที่ดิ้วยาว 21 นิ้ว เมื่อหดเก็บจะมีความยาวประมาณ 8 นิ้ว ส่วนดิ้ว 26 นิ้ว เมื่อหดเก็บจะยาวเกือบๆ 10 นิ้ว.......... ความยาวที่ต่างกันสองนิ้วนี่ พอนำมาพก หรือเก็บไว้กับตัวแล้วจะเห็นถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจนครับ ดุ้นยาว 6 นิ้วนี่สามารถใส่ในกระเป๋ากางเกงสแลคทั่วไปได้สบายๆ ไม่รู้สึกเกะกะเลย ขณะที่ 8 นิ้ว อาจจะยาวเกินกระเป๋ากางเกงบางตัว......... ตรงนี้ต้องดูกันเองครับว่าใครสามารถพกพาดิ้วขนาดใดได้ง่ายกว่ากัน......... เช่นเดียวกับการพกมีด ยังไงผมก็ไม่แนะนำให้เก็บไว้ในกระเป๋าถือ ยกเว้นแต่ว่ากระเป๋านั้นมีช่องเก็บแยก สามารถหยิบใช้ได้รวดเร็ว ไม่เกาะเกี่ยวกับของอื่นๆที่อยู่ในกระเป๋า
ความยาวของดิ้วยังมาพร้อมกับน้ำหนักครับ........... ดิ้วเหล็กยาว 26 นิ้วจะมีน้ำหนักราว 600 กรัม ขณะที่ดิ้วเหล็ก 21 นิ้ว จะหนักราว 450 กรัม ส่วนดิ้วเหล็ก 16 นิ้ว จะหนักราว 280 กรัมครับ.......... น้ำหนักนี่ผลต่อการใช้งานมากทีเดียว สำหรับดิ้วเหล็กขนาด 26 นิ้ว ที่หนักเกินครึ่งกิโลกรัม ผมใช้งานสักพักจะรู้สึกเมื่อยต้นแขน และหากบางครั้งที่ใช้ข้อมือในการตี อาจรู้สึกปวดข้อมือได้เลย............ ส่วนดิ้วเหล็กขนาด 21 นิ้ว เป็นน้ำหนักที่จัดว่ารับได้ พอจะเล่นให้รวดเร็วได้ อาจจะไม่พลิ้วไหวนัก (เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนด้วยครับ) แต่สำหรับน้ำหนักราว 280 กรัม เป็นน้ำหนักที่กำลังเหมาะสำหรับผมครับ สามารถเล่นให้รวดเร็วได้ตามต้องการเลยล่ะ.......... ในต่างประเทศ Baton ขนาด 16 นิ้วจะได้รับความนิยมสูงสุด แต่ในบ้านเราจะเป็นขนาด 21 นิ้ว อาจจะเป็นเพราะว่า จ่ายเงินเท่ากัน แต่ได้ Baton ยาวกว่าตั้งหลายนิ้ว
วัสดุที่ใช้ทำ Baton
Baton ส่วนใหญ่ทำจากเหล็ก เคลือบผิวดำ หรือไม่ก็ชุบนิเกิลโครเมี่ยม........... ผิวนิเกิลโครเมี่ยมจะทนต่อสภาวะอากาศได้ดีกว่า เหมาะสำหรับงานที่ต้องกรำแดด กรำฝน หรืออยู่ติดน้ำติดทะเล แต่ผิวที่เคลือบก็อาจจะลอกหลุดได้ง่ายกว่า........... สำหรับผิวเคลือบดำ โดยทั่วไปก็ทนทานวางใจได้ แต่ผมก็เคยเจอ Baton เหล็กเคลือบดำเป็นสนิมมาแล้วนะครับ............ พอสนิมขึ้นนี่เป็นเรื่องเซ็งมากเลย เพราะใช้พวกน้ำยากำจัดสนิมแล้วมันจะทำให้เนื้อโลหะลื่น จนไม่สามารถล็อกให้ยืดออกได้ครับ......... อย่างไรก็ตาม ผมเพิ่งเจอมากรณีเดียวครับ ที่ Baton เหล็กเคลือบดำเป็นสนิม และยังไม่เคยเจอกับ Baton ราคาถูกจากจีนด้วย
นอกจากเหล็กแล้วยังมี Baton ที่ทำจากอลูมิเนียม หรือที่เรียกกันว่ารุ่น Airweight ซึ่งน้ำหนักเบากว่า Baton เหล็กราว 30-40 เปอร์เซ็นต์.......... คิดง่ายๆ คือ Baton ยาว 21 นิ้ว จะหนักพอๆกับ Baton ยาว 16 นิ้วครับ........... Baton อลูมิเนียมนี่ผู้ผลิตคุยว่า ความแข็งแรงเทียบเท่ากับ 98% ของ Baton เหล็ก โดยราคาแพงกว่า Baton เหล็กราว 20% (ในอเมริกานะครับ ราคาที่ผมได้ในบ้านเรายังแพงกว่า Baton เหล็กยี่ห้อเดียวกันเกือบเท่าตัวครับ)........... หากไม่ติดขัดที่งบประมาณ ผมว่า Airweight Baton เป็นคำตอบที่ดีที่สุดครับ โดยเฉพาะ Airweight ขนาด 16 นิ้ว จะมีน้ำหนักไม่ถึง 200 กรัม หนักกว่าไม้เรียวนิดเดียวเอง............ ผู้หญิงตัวเล็กๆใช้ได้สบายๆเลยครับ
พลาสติก Carbon เป็นวัสดุอีกประเภทถูกนำมาใช้ทำ Baton........... Baton ที่ทำจากพลาสติกจะมีน้ำหนักเท่ากับ Baton ที่ทำจากอลูมิเนียมครับ............. ข้อดี คือ ราคาถูกกว่า Baton อลูมิเนียมอยู่หลายเท่าตัว แต่ก็มีข้อเสียที่เมื่อหดเต็มที่แล้วความยาวจะมากกว่า........... โดย Baton พลาสติกยาว 21 นิ้วเมื่อหดเก็บแล้วจะเหลือความยาว 9 นิ้ว ในขณะที่ Baton เหล็กจะยาวราว 8 นิ้วเท่านั้น........... ข้อเสียอีกอย่างของ Baton พลาสติก คือ เมื่อใช้ไประยะหนึ่งแล้วพลาสติกบริเวณที่ขัดล็อกจะสึกหรอไปมาก ทำให้ล็อกไม่ค่อยอยู่.......... แต่ตรงนี้แก้ไขได้ไม่ยากครับ
ดิ้วทอง เป็นดิ้วเหล็กนั่นแหละครับ แต่ชุบทอง 18 เค............ เหมาะสำหรับพกไปงานหรูๆ เช่น งานราตรีสโมสร ในชุดทักสิโด :D:D:D
ชนิดของ Baton
นอกจาก Baton ที่เป็นท่อเหล็กสามท่อนอย่างที่เราคุ้นเคย ยังมี Baton แบบอื่นๆอีก ดังนี้ครับ
Baton สปริง โดยทั่วไปจะมีท่อนกลางเป็นสปริง บางแบบก็เป็นสปริงทั้งท่อนกลาง และท่อนปลาย............ ผมไม่แนะนำให้ใช้ Baton แบบนี้เลยครับ เพราะควบคุมขณะตีได้ยาก......... เมื่อตีแล้วดิ้วสปริงจะเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาแบบไร้ทิศทาง ทำให้กำหนดทิศทางที่จะตียาก การที่จะหยุดแรงสปริงของดิ้วของใช้กำลังข้อมือค่อนข้างมาก ตีไม่กีที่ก็เมื่อยข้อมือแล้วครับ............. แถมดิ้วสปริงยังไม่สามารถใช้บล็อกไม้หรือของแข็งอื่นๆได้ด้วย.............. แม้ว่าแรงเหวี่ยงของสปริงจะช่วยให้การตีแรงขึ้น แต่หากปลายดิ้วตีเข้ายังเป้าหมายโดยตรง ไม่ได้ใช้แรงเหวี่ยง ตัวสปริงกลับช่วยดูดซับแรง ทำให้ตีได้ไม่แรงเท่าที่ควรครับ
Automatic Baton เป็นดิ้วที่มีก้านกดที่ด้ามให้ท่อนเหล็กพุ่งออกไปโดยอัตโนมัติ......... ดิ้วแบบนี้มีข้อเสียที่ใหญ่ และหนัก เพราะต้องมีสปริงและกลไกภายในครับ......... โจ้เคยซื้อดิ้วแบบนี้กลับมาจากอเมริกาเมื่อราวยี่สิบปีก่อน หลังจากลองเล่นกันแล้วไม่ประทับใจเลย ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังอยู่รึเปล่า
Ball Bearing Lock Baton เป็นดิ้วแบบที่ระบบล็อกด้วยลูกปืน ไม่ใช่ล็อกโดยการอาศัยความฝืดแบบดิ้วปกติ.......... ดิ้วแบบนี้ผมชอบมากๆ ที่มีขายในบ้านเราก็เห็นมีแต่ยี่ห้อ Ram ครับ
ดิ้วแบบมีระบบล็อกนี้ ช่วยให้มั่นใจว่าเมื่อยืดแล้วยังไงซะดิ้วก็ล็อกสนิท ไม่ต้องกลัวว่าจะหดกลับขณะตี หรือเมื่อกระทบวัตถุอื่น........... การยืดก็ทำได้ง่ายๆ แค่ดึงท่อนบนออก ไม่ต้องสลัด สะบัดด้วย ทำให้สามารถเปิดดิ้วโดยไม่มีเสียงได้ เผื่อเวลาย่องเข้าไปจับขโมยไม่ให้มันรู้ตัวน่ะครับ............ การหดดิ้วก็แค่ขยับปลอกบริเวณข้อกลางขึ้น ท่อนปลายก็จะเก็บลงไปเอง ไม่ต้องกระแทกกับพื้นครับ.......... ข้อเสียของดิ้วที่มีระบบล็อกของ Ram คือ เก็บได้แค่สองท่อน ดิ้ว Ram ที่มีความยาวเมื่อยืดเต็มที่ 21 นิ้ว เมื่อหดแล้วจะยาวถึง 13 นิ้วครับ แถมยังหนักตั้ง 470 กรัมแน่ะ.......... ราคาของดิ้วยี่ห้อนี้ไม่แพงด้วยครับ อยู่ราวพันบาทกลางๆเท่านั้นเอง........... นับเป็นดิ้วที่น่าหามาติดบ้าน หรือติดรถไว้สักอัน
ดิ้วที่มีระบบล็อกอีกแบบ เป็นของยี่ห้อ Monadnock........... ตัวนี้มีจุดเด่นที่เก็บเป็นสามท่อน โดยการกดปุ่มที่ปลายด้ามของดิ้วครับ........... ข้อเสียก็อยู่ที่น้ำหนักค่อนข้างมาก คือ ดิ้วขนาด 21 นิ้ว จะหนักราว 540 กรัม ข้อเสียอีกอย่าง คือ ราคาแพงครับ คือ ราคาแพงกว่าดิ้วอลูมิเนียมไปอีก
การเลือกซื้อดิ้ว
ตรงนี้เหมาะสำหรับใช้เลือกซื้อดิ้วคลองถมครับ........... สำหรับดิ้วที่มียี่ห้อส่วนใหญ่แล้วจะไว้ใจได้อยู่แล้ว............ อย่างไรก็ตาม ดิ้วเหล็กยี่ห้อดังๆหลายยี่ห้อ ต่างก็ผลิตในจีนทั้งนั้น หากคิดจะดูดิ้วเหล็กไว้ใช้งาน ผมว่าเลือกซื้อดิ้วจีน จากคลองถมก็ใช้ได้เหมือนกัน............ แต่ต้องเลือกเป็นนะครับ
ในการเลือกซื้อดิ้วอย่างแรก คือ น้ำหนักครับ............ ดิ้วเหล็กที่ดีๆจะมีน้ำหนักพอประมาณ เพราะควรทำจากท่อเหล็กที่มีความหนา............ ถ้าจับเปรียบเทียบกันสามสี่รุ่น อันไหนที่น้ำหนักเบาวางลงไปก่อนเลยครับ............. จากนั้นลองเขย่าดู ขณะหดอยู่เมื่อเขย่าแล้วอาจมีเสียงก๊อกแก๊กได้บ้าง แต่ก็ไม่ควรจะดังมากนะครับ แต่เมื่อเปิดสุดแล้ว จะต้องล็อกแน่น เขย่าไม่มีเสียงใดๆทั้งสิ้น.......... และหากล็อกแบบเต็มที่จะต้องติดแน่นจนต้องออกแรงกระแทกอย่างมาก จึงจะสามารถหดดิ้วกลับได้
จากนั้นให้วัดความยาวของข้อกลาง ในขณะที่ดิ้วเปิดเต็มที่............... แล้วให้หดดิ้วกลับ แต่ไม่ต้องปิดจนสนิท คือ หดไว้แต่ไม่ต้องให้ล็อกน่ะครับ............ และให้ลองเปิดฝา (Cap) ที่ปลายด้ามออกครับ............ หากดิ้วอันไหนเปิดฝานี่ไม่ได้ เลิกสนใจไปได้เลย........... พอเปิดแล้วให้เทดิ้วท่อนกลางและท่อนปลายออกมา แล้ววัดความยาวของท่อนกลาง เพื่อที่จะได้รู้ว่าความยาวที่เหลืออยู่ในด้ามน่ะยาวแค่ไหน.......... หากท่อนกลางของดิ้วเมื่อเปิดเต็มที่วัดได้ 6 นิ้ว พอถอดมาวัดความยาวของท่อนกลางทั้งหมดควรจะยาวราว 7 นิ้ว หรือมากกว่านั้นยิ่งดีครับ
จากนั้นก็ให้ดูว่าผนังของท่อเหล็กของท่อนกลางหนาขนาดไหน............ พอดีตรงนี้ผมไม่มีเวอร์เนียสำหรับวัด เลยบอกไม่ได้ว่าปกติจะหนาเท่าไหร่ แต่จากการประมาณน่าจะหนาอย่างน้อยมิลครึ่ง ถึงสองมิลครับ......... ผมเคยเจอดิ้วราคาถูกๆที่ผนังของท่อนกลางบางเฉียบ สะบัดเปิดทีเดียวหลุดเป็นสามท่อนเลยครับ............ นอกจากสังเกตผนังของท่อนกลางแล้ว ให้ดูด้วยว่าส่วนปลายของท่อนกลางบานออกอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ไม่ควรบานออกเล็กน้อยแล้วเป็นทรงกระบอกต่อนะครับ........... ไหนๆก็เปิด Cap ออกมาดูแล้ว ก็ดูเหล็กสปริงที่ Cap ซะหน่อยว่า มีขนาดใหญ่ แข็งแรงทนทานดีหรือไม่........... สิ่งที่ต้องสังเกตอีกอย่างในการเลือกซื้อดิ้ว หรือวัสดุที่ใช้ทำด้าม........... วัสดุที่ใช้ทำด้ามควรจะทนทาน ไม่ขาดง่าย และด้ามควรจะติดสนิทกับตัวดิ้ว ไม่สามารถเลื่อนไปมาได้.......... ราคาของดิ้วจีนที่น่าสนใจจะค่อนข้างสูงครับ เกินห้าร้อยบาทก็แล้วกัน ผมยังไม่เคยเจอดิ้วที่ราคาต่ำกว่าห้าร้อยแล้วใช้ได้ดีเลยครับ
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆสามารถหาดิ้วคู่มือที่ดีได้นะครับ
ขอบคุณบทความดีๆจากคุณ เอ็ม http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=23930.0
ทะเบียนพาณิชย์
หน้าที่เข้าชม | 469,671 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 207,832 ครั้ง |
เปิดร้าน | 23 มิ.ย. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 1 ส.ค. 2568 |